อายุยางรถยนต์ กี่ปี ควรเปลี่ยนตอนไหน ?
อายุยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนตอนไหน ? รวบรวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์ที่ผู้ใช้รถควรรู้ มาฝากกัน
ยางรถยนต์ อีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้รถขับเคลื่อนต่อไปได้ นอกจากจะรองรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกแล้ว ยังช่วยลดแรงกระแทกจากการสั่นสะเทือนในระหว่างขับขี่อีกด้วย ผู้ใช้จึงต้องดูแลรักษายางรถยนต์ให้ดี และควรเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน
อายุการใช้งานยางรถยนต์ ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี
ยางรถยนต์ กี่ปี เปลี่ยน?
ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไหร่ ? ปัจจุบันอายุยางรถยนต์จะอยู่ที่ 2-5 ปี หรือ 30,000 - 40,000 กิโลเมตร (แล้วแต่การใช้งาน) หากใช้ยางเกิน 5 ปีขึ้นไป หรือใช้งานรถหนักมากเกินไป เช่น ขนของหนักเป็นประจำ หรือเดินทางต่างจังหวัดบ่อย ๆ ควรเช็กสภาพยางอย่างน้อยปีละครั้ง หากพบว่ายางรถยนต์เกิดการเสื่อมสภาพหรือเกิดการสึกหรอ เช่น มีหลุมในดอกยาง, ขอบยางเกิดการเสียรูป หรือแก้มยางเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
ตัวเลขคู่หน้า “15” ใช้บอกสัปดาห์ที่ผลิตยาง
ตัวเลขคู่หลัง “19” ใช้บอกปี ค.ศ. ที่ผลิตยาง
ดังนั้น ตัวเลข 1519 หมายความว่า ยางเส้นนี้ผลิตในสัปดาห์ที่ 15 ของปี 2019
สาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์เสื่อใสภาพเร็วมีหลายปัจจัยเลยทีเดียว จำแนกได้ ดังนี้
อายุการใช้งาน : เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ยางรถยนต์จะเกิดการเสื่อใสภาพไปตามกาลเวลา ผู้ใช้รถจึงควรตรวจเช็กสภาพยางอย่างน้อยปีละครั้ง หากเกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
ด้านสภาพอากาศ : อุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงเกินไปมีผลต่ออาการเสื่อมของยางรถยนต์ อย่างในประเทศไทยการขับ/จอดรถท่ามกลางแดดเปรี้ยง ๆ ก็เป็นสาเหตุเล็ก ๆ ที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วเช่นกัน
ด้านสภาพถนน : หากขับรถบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีสิ่งกีดขวาง หรือขับรถผ่านลูกระนาดแล้วไม่เบรก ก็อาจทำให้ยางเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น
ลักษณะการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม : ผู้ใช้รถหลายคนมักมีพฤติกรรมการขับรถที่ไม่ถนอมรถยนต์ อาทิ ใช้ความเร็วสูง ออกตัวแรงและเบรกกะทันหัน ฯลฯ ลักษณะการขับขี่เช่นนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ยางสึกหรอเร็ว ลดอายุการใช้งานให้สั่นลงไปอีก
ดังนั้น เพื่อยืดอายุยางรถยนต์ให้นานขึ้น จึงควรดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ขับรถอย่างถนอม จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย
