7 วิธีเลือกฟิล์มแบบไหนดี…ดูที่อะไรบ้าง?

ซึ่งเราสรุปมาให้ 7 ข้อด้วยกัน จากนั้นก็ค่อยๆ ตอบตัวของท่านเองไปทีละข้อ เสร็จแล้วคุณอาจพบคำตอบชัดเจนขึ้น มาลองดูกันครับว่า 7 ปัจจัยนั้นมีอะไรบ้าง

กันความร้อนได้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

เพราะเราติดฟิล์มโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกันความร้อนใช่มั้ยล่ะครับ ฉะนั้น สิ่งนี้ควรเป็นสิ่งแรกที่พิจารณาเลยว่าฟิล์มที่เราสนใจเลือกติดตั้งอยู่นั้น สามารถกันความร้อนได้ดีเพียงพอกับการใช้งานหรือไม่ โดยฟิล์มกรองแสงแต่ละรุ่นแต่ละชนิดนั้น จะมีสเปคบอกความสามารถในการป้องกันความร้อนอยู่ครับ มีค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

VLT = Visible Light Transmission คือ ค่าแสงส่องผ่าน
VLR = Visible Light Rejection คือ ค่าการสะท้อนแสง
UVR = UV Rays Rejection คือ ค่าการลดรังสี UV
TSER = Total Solar Energy Rejection คือ ค่าการลดความร้อนจากแสงแดดจริง
IRR =  Infrared Rays Rejection คือ ค่ากันร้อนจากรังสีอินฟราเรด

ทุกค่าล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพการกันร้อนไม่ว่าทางตรงก็ทางอ้อม แต่เพื่อความเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนเกินไป ลามิน่าแนะนำให้ท่านดู TSER เป็นหลักครับ เพราะเป็นสเปคที่การวัดค่าต้องวัดกับแสงอาทิตย์โดยตรง (และเราก็ขับรถท่ามกลางแสงอาทิตย์จริงไหมครับ? Make Sense กว่าการเอาค่า IRR มาวัดประสิทธิภาพฟิล์มด้วยแสงจากหลอดไฟสปอตไลท์เยอะ)  เพราะฉะนั้น ดูที่ค่า TSER ครับ ยิ่งสูงก็ยิ่งหมายความว่ากันความร้อนได้ดีนั่นเอง

ระดับความเงา ชอบแบบไหน 

สเปคฟิล์มที่ช่วยบ่งบอกระดับความเงาของฟิล์ม คือค่า VLR นั่นเองครับ ยิ่งค่าสูงฟิล์มยิ่งเงามาก ถึงขั้นสะท้อนแสงเหมือนกระจกก็มี ยิ่งน้อยฟิล์มก็ยิ่งมีความเงาต่ำ ให้เห็นภาพกันง่าย ๆ ลองดูตามภาพตัวอย่างได้เลยครับ แม้สีฟิล์มจะเป็นโทนสีดำเหมือนกันแต่สังเกตความเงา “มีความแตกต่างกันชัดเจน”จะเลือกฟิล์มเงามาก หรือเงาน้อยล้วนแต่เป็นเรื่องของรสนิยมครับ

ชอบความเงาวาว อันนี้ต้องไปทางฟิล์มปรอท (หรือฟิล์มโลหะ) เพราะว่าโลหะที่ผนึกบนแผ่นฟิล์มมีความเงาสะท้อนแสงนั่นเอง เมื่อนำมาเคลือบที่แผ่นฟิล์มจึงทำให้เนื้อฟิล์มมีคุณสมบัตินี้ไปด้วย


ชอบฟิล์ม แบบเงาน้อย สะท้อนแสงต่ำ ก็ต้องไปทางฟิล์มเซรามิคหรือฟิล์มชาโคลครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นเซรามิคหรือชาโคล (ถ่าน) ต่างก็เป็นอโลหะซึ่งไม่มีคุณสมบัติเงาวาวนั่นเอง

ชอบสีแบบไหน

ฟิล์มรถยนต์ในปัจจุบัน มีหลากหลายเฉดสีครับ ทั้งฟิล์มรถยนต์สีเขียว, ฟิล์มรถยนต์สีฟ้า, ฟิล์มรถยนต์สีชา, ฟิล์มรถยนต์สีเทา และฟิล์มรถยนต์สีดำ

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นคนที่เนี๊ยบเรื่องสีฟิล์มจริงๆ (โดยเฉพาะเจ้าของรถแต่งซิ่ง ที่ชอบโทนสีกระจกเฉพาะเจาะจง) อย่าลืมนำตัวอย่างสีฟิล์มลองไปทาบกับเนื้อกระจกให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะครับ เนื่องจากกระจกที่ติดมากับรถแต่ละรุ่นเองนั้นก็มีสีเดิมอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อติดฟิล์มทับเข้าไปจึงอาจได้เฉดสีที่ต่างไปจากเดิมเล็กน้อยได้ครับ

ชอบความเข้มระดับไหน

น่าจะเคยได้ยินผ่านหูกับคำว่า “ฟิล์ม 40 / ฟิล์ม 60 / ฟิล์ม 80” กันมาบ้างแน่เลยครับ ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขที่คนไทยคุ้นชินว่าเป็นค่าแสดง“ความเข้มของฟิล์ม” ถ้าฟิล์มรถยนต์ 80 ก็คือมีความเข้มสูงมาก (ในทางตรงกันข้าม ฟิล์มรถยนต์ 40 ก็คือ ความเข้ม/ความทึบน้อย ฟิล์มค่อนข้างใสและสว่าง) 

แต่ความจริงแล้ว ในการที่เราจะเลือกซื้อฟิล์ม สเปคที่บ่งบอกถึงความเข้มฟิล์มได้จริและชัดเจน ก็คือค่า VLT นะครับ (ที่อเมริกาไม่มีค่า ฟิล์ม 40 / 60 / 80 นะคร้าบบบ) โดยที่ยิ่ง %VLT ยิ่งน้อย หมายถึงแสงส่องเข้ามาได้น้อย ความเข้มก็จะยิ่งมากนั่นเอง

แบรนด์และแหล่งผู้ผลิต มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?

เราจะซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่อยู่กับเราไปอย่างยาวนานทั้งที ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้รวมทั้งหากเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดฟิล์มกรองแสงมาอย่างยาวนาน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจทั้งในด้านของคุณภาพฟิล์มกรองแสงที่มีมาตรฐานเดียวกันในทุกม้วนฟิล์ม พร้อมบริการหลังการขายที่ดูแลคุณได้จริงตลอดอายุการใช้งานของฟิล์มครับ 

ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของฟิล์ม

ราคาของฟิล์มกรองแสงค่อนข้างมีความหลากหลายเลยทีเดียวครับ โดยจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของฟิล์ม, เทคโนโลยีการผลิตที่ใช้, ตำแหน่งและจำนวนกระจกที่ติดตั้งลองดูที่งบประมาณในใจของท่านก่อนได้ครับ เพราะฟิล์มที่ราคาย่อมเยาว์ แถมคุณภาพดีก็มีไม่น้อยเลยนะครับแต่ถ้าหากท่านมีงบไม่จำกัด ก็จัดเต็มกับรุ่นที่พรีเมี่ยมได้เลยครับ! 

เลือกร้านติดฟิล์มรถยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือ

อาจเริ่มจากการดูสถานที่ติดตั้งฟิล์ม ควรทำใช้สถานที่ที่เหมาะสม มีการออกแบบมาเพื่อการติดฟิล์มโดยเฉพาะ นั่นคือ สามารถควบคุมและป้องกันฝุ่นละออง, ควบคุมความชื้น, ควบคุมแสงสว่างได้ จะได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ทีมช่าง และช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ฝุ่นจะเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างเนื้อฟิล์มและกระจกในระหว่างที่ติดตั้ง, ฟิล์มไม่พอดีขอบ คราบความชื้น ฯลฯ

นอกจากนี้ ประสบการณ์ของทีมช่างก็เป็นสิ่งสำคัญ ความชำนาญของช่างจะช่วยให้งานติดตั้งฟิล์มออกมาเนี๊ยบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถ้ายังไม่มั่นใจ อาจลองหาดูตัวอย่างงานจากทางร้านว่ามีคนพูดถึงอย่างไร, มีผลงานการติดตั้งมากน้อยแค่ไหน ก็ได้ครับ

Powered by MakeWebEasy.com